วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

ICT กับอาเซียน

ไอซีที ร่วมจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap รองรับประชาคม

อาเซียนเศรษฐกิจ



          นางเมธินี เทพมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านไอซีทีเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการวางกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านไอซีที โดยการจัดทำแผนแม่บทไอซีทีของอาเซียน (ASEAN ICT MASTERPLAN 2015) หรือ AIM 2015 ที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุม ASEAN TELMIN ครั้งที่ 10 เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดแผนการดำเนินงานและแนวทางความร่วมมือด้านไอซีทีของอาเซียนในระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 – 2558 
          แผนแม่บทฯ ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้มีความแข็งแกร่งและสนับสนุนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน โดยได้กำหนดเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ คือ
1) ไอซีทีเป็นเครื่องมือในการผลักดันให้อาเซียนมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 
2) อาเซียนได้รับการยอมรับในฐานะเป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีแห่งหนึ่งของโลก 
3) ประชากรอาเซียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ 
4) ไอซีทีมีส่วนช่วยส่งเสริมการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน รวมทั้งได้มีการวางยุทธศาสตร์ในการดำเนินการไว้ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 
      ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ (Economic transformation) 
      ยุทธศาสตร์ที่ 2 การมีส่วนร่วมของประชาชน และการสร้างศักยภาพให้แก่ประชาชน (People empowerment and engagement) 
      ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างนวัตกรรม (Innovation)
      ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure development) 
      ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human capital development) 
      และยุทธศาสตร์ที่ 6 การลดช่องว่างทางด้านดิจิทัล (Bridging the digital divide)
          “กระทรวงไอซีที ในฐานะหน่วยงานหลักด้านไอซีทีของประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญของแผนแม่บทไอซีทีของอาเซียน จึงเข้าไปร่วมผลักดันการดำเนินงานในส่วนของยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้วยการริเริ่มเสนอแนวความคิดจัดทำแผนทิศทางการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (ASEAN e-Services Roadmap) ซึ่งที่ประชุม ASEAN TELMIN ครั้งที่ 10 ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการจัดทำแผน โดยจะมุ่งเน้นไปที่การผลักดันให้เกิดการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) ในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์การ และภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งสอดรับกับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียนในปี 2558” นางเมธินี กล่าว 
          สำหรับแนวทางการดำเนินการนั้น จะเริ่มตั้งแต่การศึกษาและสำรวจสถานะการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งแผนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ สำรวจความต้องการบริการอิเล็กทรอนิกส์ในมุมมองของประชาชน และภาคธุรกิจ ตลอดจนศึกษาถึงประโยชน์ ความคุ้มค่า และปัจจัยเกื้อหนุนต่อการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะพัฒนาเป็นบริการร่วม (Shared services) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน 
          “กระทรวงฯ ได้ทำการศึกษากรอบแนวทาง (Framework) และกรณีศึกษาการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอื่นๆ อาทิ APEC EU ฯลฯ และนำข้อมูลมาใช้ประกอบการจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap เพื่อเป็นแนวทางสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนใช้ในการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ และบริการอิเล็กทรอนิกส์ร่วมระหว่างประเทศ โดยจะมีการเสนอแนะมาตรการในการส่งเสริม และจูงใจให้มีการพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาเนื้อหา (Content) ตลอดจนการส่งเสริมให้ประชาชนและภาคธุรกิจในอาเซียนใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ร่วมด้วย ซึ่งการจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap นี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นอย่างยิ่ง” นางเมธินี กล่าว


          สำหรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะสามารถพัฒนาเป็นบริการร่วมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนได้นั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ 1) บริการการเคลื่อนย้ายบุคคล (Movement of people) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการจัดทำ Roadmap นี้จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคคล ทั้งในด้านของการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการจัดทำความตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Agreement: MRA) เพื่ออำนวยความสะดวกในการยอมรับคุณสมบัติของนักวิชาชีพ โดยมีการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพที่สำคัญร่วมกัน เพื่อการถ่ายเทแรงงานที่มีฝีมือได้โดยเสรีมากขึ้น ทั้งนี้การพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยอำนวยความสะดวก โดยลดขั้นตอนและกระบวนการทางเอกสารในการเคลื่อนย้ายแรงงานในอาเซียน
          นอกจากนี้ในด้านการเดินทางระหว่างประเทศ การพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง และลดปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดเสรีการบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ ทั้งในกระบวนการออกวีซ่าที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การจัดทำ ASEAN Single Visa รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดร่วมกันเพื่อประชาสัมพันธ์อาเซียนในฐานะแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน (ASEAN Single Destination)
          2) การเคลื่อนย้ายสินค้า (Movement of goods) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน การจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap จะมีส่วนสนับสนุนให้การพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกในการนำเข้า – ส่งออก ด้วยระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว หรือระบบ ASEAN Single Window ที่ในปัจจุบันได้มีการดำเนินการพัฒนาในประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ให้สามารถขยายการพัฒนาไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้ครบทุกประเทศในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ และการใช้ทรัพยากรต่างๆ อันเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าของอาเซียน ในปี 2558

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ICT กับเศรษฐกิจพอเพียง

 
เศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีการศึกษา

     
      การใช้ เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( sufficiency economy using for ICT) การใช้ เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
     เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ  ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียรมีสติปัญญาและความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุสังคมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
     เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ( ICT ) หมายถึง  การใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาเพื่อให้ได้มาข้อมูลและข่าวสาร การติดต่อ  การทำกิจกรรมต่าง ๆ  การ ส่งข้อมูลข่าวสาร และติดต่อปฏิสัมพันธ์กัน เป็นต้น
                ปัญหาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่นับว่าทันสมัยและเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วมาก เช่น คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์มือถือ  ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เป็นต้น ปัญหาก็คือ 1. ตัวผู้ใช้เทคโนโลยีสามารถใช้เทคโนโลยีได้ดีมากน้อยแค่ไหน ใช้คุมค่าไหม  จำเป็นต่อการใช้เทคโนโลยีชิ้นที่แพงนั้นหรือเปล่า  2. คนไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า  3.  บุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริงในเรื่องเทคโนโลยีมีน้อย 4.การศึกษาของคนในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ  เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาการนำเทคโนโลยีมาใช้
                การศึกษากับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คือ สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้วนั้นต้นเหตุหลักประการหนึ่ง คือ การขาดโอกาสทางการศึกษา ความยากจน เป็นต้นเพราะการศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังพุทธพจน์ว่า  นัตถิ ปัญญา สมา อภา แสงสว่างเปรียบเสมือนปัญญาไม่มี  ปัญญาก็คือตัวความรู้นั้นเอง ฉะนั้น รัฐ ต้องส่งเสริมให้คนทุกคนมีการศึกษาและคุณธรรมก่อน โดยเฉพาะให้การศึกษาเกี่ยวกับทางสายกลาง หรือเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต ในการประกอบอาชีพ และการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศที่ทันสมัยในการหาข้อมูล เพราะถือว่าในโลกอนาคตจะเป็นคลังอาวุธคลังปัญญาที่ดีเยี่ยม
                ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ ภาครัฐ  สภาพแวดล้อม เช่นมหาวิทยาลัย  สังคม  ครอบครัว  ตัวผู้ใช้ ( ต้องมีความกระตือรือร้นและยอมรับในเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อแบบใหม่ที่นำ มาใช้ )  ต้องสนับสนุนส่งเสริมและต้องสนับสนุนส่งเสริมปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เช่น ให้เป็นนโยบายหลักของชาติ ให้งบประมาณมากเพียงพอ
                การนำเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระ ราชดำรัส ได้แก่ รู้จักใช้ตามความจำเป็น และตามกำลังทรัพย์ของคนนั้น หรือเรียกว่ารู้จักใช้พอประมาณ  ตามเหตุผล ไม่ไปตามกระแสโลกประกอบกับใช้หลักธรรมเข้ามาช่วย เช่น ไม่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด และหมั่นดูแลรักษาตลอดถึงในการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดตามความจำเป็น
      การเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นกระทรวง ศึกษาธิการดำเนินการด้วยการให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ผ่านการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ผ่านโครงการต่างๆ ในแต่ละระดับ ได้แก่
1.ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำโครงการขับเคลื่อนหลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา เพื่อเป็นการนำนโยบายการปฏิรูปการศึกษา โดยใช้คุณธรรมนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้สถานศึกษาเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ในชุมชน พร้อมสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียง ให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลอย่างยั่งยืน
2.การศึกษาเอกชน ได้จัดการประชุมสัมมนาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการปฏิบัติงานโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
3.ระดับอาชีวศึกษา ได้มีการประชุมปฏิบัติการบูรณาการแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการ จัดการเรียนการสอน การบูรณาการกิจกรรม และการดำเนินการศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน
4.ระดับอุดมศึกษา ได้ให้สถาบันอุดมศึกษาน้อมนำพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม รวมทั้งปรับเปลี่ยนกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 เทคโนโลยีการศึกษากับการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการเตรียมตัวในการจัดการศึกษาเพื่อทำให้เข็มแข็ง สามารถสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้หมด โดยอาศัยการประยุกต์ใช้หลักพอประมาณ หลักมีเหตุผล หลักภูมิคุ้มกัน  โดยกระบวนการในการจัดการเชิงกลยุทธ์ซึ่งประกอบด้วย การวางแผนกลยุทธ์ การนำกลยุทธ์ไปสู่ปฏิบัติ การควบคุมและประเมินผลเชิงกลยุทธ์ ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาต้องคิดเอง เพราะแต่ละสถานศึกษาไม่เท่ากัน พัฒนาการสถานศึกษาทั้ง ๔ ภารกิจไม่เท่ากัน และตัวชี้วัดก็ต้องคิดเอง ถ้าทำอย่างนี้จะมีแผนพัฒนาสถานศึกษาที่บูรณาการรอบด้าน โดยสรุปแล้วเชื่อว่าปรัชญานี้มีประโยชน์ ถ้าทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง ผู้ปฏิบัติจะเกิดความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน

สรุบในความคิดของตนอง

             เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยถูกพูดถึงอย่างชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆเเละยังมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศเศรษฐกิจพอเพียงยังเป็นทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ  การนำเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระ ราชดำรัส ได้แก่ รู้จักใช้ตามความจำเป็น และตามกำลังทรัพย์ของคนนั้น หรือเรียกว่ารู้จักใช้พอประมาณ  ตามเหตุผล ไม่ไปตามกระแสโลกประกอบกับใช้หลักธรรมเข้ามาช่วย เช่น ไม่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด และหมั่นดูแลรักษาตลอดถึงในการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดตามความจำเป็น เศรษฐกิจพอเพียงกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ คือ อย่างแรก ต้องคำนึงถึงเรื่องการศึกษาเป็นสำคัญเพราะการศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่การเรียนรู้คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้ การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ  สภาพแวดล้อม  สังคม  และโดยเฉพาะ ครอบครัวและตัวผู้ใช้เอง  การรู้จักใช้เทคโนโลยีนั้นให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและตามความจำเป็น จะเห็นว่าเศรษฐกิจพอเพียงสามารถจะนำไปประยุกต์ได้กับทุกสาขาอาชีพ   ทุกสภาพการณ์   ทุกชีวิตของคนเรา ตั้งทั้งนี้ทั้งนั้น คุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน




วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มารู้จักและเล่น Subway Surfers กันเถอะ!!



Subway Surfers.




              Subway Surfers ชวนกันมาป่วนป้วนเปี้ยนบนทางรถไฟที่เต็มไปด้วยขบวนรถไฟมากมาย พร้อมกับหลบหนีตำรวจกับสุนัขจอมโหดที่คอยตามล่าเรา ทำให้ต้องคอยวิ่งหลบทั้งขบวนรถไฟที่จะวิ่งสวนเรามา และอุปสรรคทั้งหลายที่ขวางกั้นเส้นทางเอาไว้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จะได้พบเจอในเกมส์ Subway Surfers ซึ่งเป็นแอพเกมส์ที่มีกราฟฟิคสวยงาม และสีสันสดใส บวกกับความน่าสนใจของตัวเกมส์ทำให้เราไม่พลาดที่จะรีวิวแอพนี้กัน

              โดยในหน้าหลักของ Subway Surfers หลังจากที่เราเปิดแอพขึ้นมาแล้วนั้น เราจะพบกับ Icon ต่างๆมากมายเลย และวิธีการเข้าเล่นเกมส์นั้นก็ง่ายๆ ไม่ต้องแตะปุ่มอะไรให้ยุ่งยาก แต่สามารถแตะลงไปกลางหน้าจอได้เลย จากนั้นก็จะเข้าสู่การเล่นเกมส์ Subway Surfers


วิธีเล่น

              สำหรับวิธีการเล่น Subway Surfers เราจะใช้นิ้วปาดไปบนหน้าจอเพื่อควบคุมตัวละครของเรา โดยจะสังเกตเห็นว่ารางรถไฟจะมีทั้งหมด 3 ราง และเราสามารถปาดหน้าจอไปซ้ายและขวาเพื่อให้ตัวละครของเราสลับไปวิ่งบนรางข้างๆได้ พร้อมทั้งสามารถปาดลงเพื่อกลิ้งไปบนพื้นหรือมุดหรอบสิ่งกีดขวาง และปาดขึ้นเพื่อกระโดดหลบสิ่งกีดขวาง


ในระหว่างการเล่นเราจะต้องคอยหลบสิ่งกีดขวางต่างๆ และต้องคอยเก็บเหรียญกับ Item ต่างๆไปด้วย และวิ่งไปให้ไกลที่สุด โดยไม่ให้ชนกับสิ่งกีดขวาง หรือโดนตำรวจจับเราได้ และเมื่อวิ่งไปไกลขึ้น ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นตามด้วย


              หากเรามี Hoverboard อยู่ เราสามารถแตะหน้าจอสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานได้ด้วย โดยเจ้า Hoverboard นี้จะช่วยปกป้องเราจากสิ่งกีดขวางต่างๆ รวมไปถึงรถไฟที่จะมาชนเราหรือเราจะไปชนได้ด้วย เมื่อเรากดใช้ Hoverboard  แล้วเราไปชนกับสิ่งกีดขวางต่างๆก็จะทำให้ตัวเราไม่เป็นอะไร แต่ Hoverboard จะหายไป ซึ่งเราสามารถซื้อ Hoverboard มาใช้ได้ตามต้องการด้วย (อันละ 300)



              เกมส์จะจบลงเมื่อเราชนเข้ากับสิ่งกีดขวางต่างๆ และโดนตำรวจจับได้ หลังจากนั้นจะมีหน้าจอสำหรับแสดง Item ที่เราเก็บได้ ให้เราดูก่อนที่จะพาเราไปยังหน้าจอแจ้งคะแนน ซึ่งจะมีการแจ้งคะแนนที่เราทำได้ พร้อมทั้งจำนวนเงินที่เราเก็บได้และมีอยู่ในปัจจุบันด้วย







Missions

              ในส่วนของเมนูนี้จะเป็นเมนูที่เราสามารถกดเข้ามาดูภารกิจต่างๆได้ โดยในแต่ล่ะระดับก็จะมีภารกิจ 3 อย่างให้เราทำ ซึ่งเราจะเลือกทำอันไหนก่อนก็ได้ หรือว่าจะทำพร้อมกันทั้งหมดเลยก็ได้เช่นกัน และในแต่ล่ะครั้งที่เราทำภารกิจสำเร็จ เราจะได้รับอัตราการได้คะแนนจากการเล่นแบบคูณหลายเท่าเลย ยิ่งผ่านภารกิจเยอะๆก็ยิ่งได้คูณเยอะขึ้น




Daily Challenge

              ส่วนเมนู Daily Challenge นั้นจะเป็นเมนูที่เราสามารถกดเข้ามาดูการท้าทายในแต่ล่ะวันได้ โดยยิ่งเราเข้ามาบ่อยๆก็จะยิ่งได้เงินมากขึ้นด้วย และในวันที่ 5 จะมีการให้กล่อง Super Mystery Box กับเราด้วย


Shop

              สำหรับ Item ต่างๆที่ใช้ในการช่วยเหลือให้เราเล่น Subway Surfers ได้ง่ายขึ้นนั้น เราสามารถเข้ามาเลือกซื้อได้จากในเมนูนี้เลย โดยจะมีขายทั้ง Item ทั่วไป และตัวละครใหม่ๆ รวมถึงมีเหรียญขายให้กับเหล่านักเล่นเกมส์ที่อยากจะได้เงินเพื่อซื้อตัวละครและ Item ต่างๆด้วย





ตัวละครบางตัวจะต้องใช้ Item ในการปลดล็อคก่อน ซึ่งสามาถหา Item สำหรับปลดล็อคได้จากการเก็บกล่องในเกมส์ Subway Surfers โดยในแต่ล่ะครั้งที่เก็บได้ก็จะสุ่มด้วยว่าจะได้ Item ปลดล็อคหรือว่าจะได้เงินแทนนั่นเอง



              สำหรับ Subway Surfers ถือว่าเป็นแอพที่เล่นมานานแล้ว แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้หยิบมารีวิวสักที แต่ว่าก็คงยังไม่สายเกินไปที่จะรีวิวแอพ Subway Surfers กันนั่นเอง และจากการเล่นนั้น พบว่า Subway Surfers มีระบบการเล่นที่เข้าใจได้ง่าย กราฟฟิคสวยสมกับเป็นเกมส์ในยุคสมัยนี้มากๆ อีกทั้งยังมีระบบภารกิจและ Item ช่วยเหลือมากมาย ทำให้ Subway Surfers เป็นเกมส์ที่สนุกมากๆเกมส์หนึ่งเลย